ฉีดไขมันใต้ตา ตัวช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ร่องตาลึกแบบธรรมชาติ

ฉีดไขมันใต้ตา ตัวช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ร่องตาลึกแบบธรรมชาติ ไม่พึ่งฟิลเลอร์

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผิวบริเวณรอบดวงตาดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แย่ไปกว่านั้นคือรอยหย่อนคล้อยที่เห็นได้ชัด? ปัญหาทั้งหมดนี้จะได้รับการเยียวยาด้วยการรักษาแบบใหม่ที่เรียกว่า “การฉีดไขมันใต้ตา (Fat transfer)” โดยถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่เห็นผลเร็ว เพราะถือเป็นการนำสารไขมันดีที่ได้จากการดูดไขมัน Body jet ของตัวคนไข้เองเติมเต็มเข้าไปทดแทนในบริเวณที่เหี่ยวย่น ทั้งนี้การฉีดไขมันจะช่วยเติมร่องลึกใต้ตาทำให้ตัวปัญหารอยคล้ำสามารถจางลงได้  ถ้าคุณยังนึกภาพไม่ออกเราจะมาทำความเข้าใจเพิ่มกันในบทความนี้เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ของผิวใต้ตาให้กลับมาสดใสดูอ่อนวัยได้มากที่สุด

สาระน่ารู้เกี่ยวกับการฉีดไขมันใต้ตา

ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตามีร่องลึก

ปัญหาผิวหนังใต้ตาที่พบเจอมากที่สุดอย่างใต้ตาคล้ำหรือมีร่องลึกนับเป็นเรื่องที่สร้างความไม่มั่นใจมากที่สุด เพราะผู้คนที่มองมาจะสังเกตเห็นส่วนนี้เป็นอันดับแรกๆ จากสาเหตุของวัยที่สร้างความหย่อนคล้อย ล่าสุดจึงมีการรักษาที่เรียกว่าการฉีดไขมันใต้ตา ที่จะเข้ามารับมือกับปัญหาเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ฉีดไขมันใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?

การฉีดไขมันใต้ตาเป็นกระบวนการรักษาเพื่อบรรเทาปัญหาริ้วรอยและร่องลึกบริเวณใต้ตา ทั้งนี้สามารถช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง เพิ่มความกระจ่างใสบ่งบอกสุขภาพโดยรวมที่ดี ซึ่งการรักษาทั้งหมดจะใช้นวัตกรรมผสานกับความเป็นธรรมชาติที่ร่างกายรับรู้ได้ดีด้วยการนำไขมันจากร่างกายของคนไข้เอง ซึ่งส่วนมากไขมันส่วนเกินจากบริเวณต้นขาหรือหน้าท้อง โดยแพทย์จะทำการคัดเลือกไขมันส่วนเกินของคนไข้ แล้วใช้เครื่องดูดไขมันออกมา เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์และนำมาผสมกับเนื้อเยื่อไขมันจะให้สารเติมเต็มที่สมบูรณ์มากขึ้น จากนั้นเตรียมฉีดเข้าไปที่บริเวณใต้ตาเพื่อเสริมสร้างให้ปัญหาดูลดลง

ฉีดไขมันใต้ตาต้องพักฟื้นหรือไม่ ?

การรักษาด้วยการฉีดไขมันใต้ตา ผู้ใช้บริการจะต้องทำการพกฟื้น แต่เป็นการพักฟื้นระยะสั้นเท่านั้น โดยปกติจะใช้เวลาเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล) ซึ่งเมื่อเทียบกับการผ่าตัดศัลยกรรมแล้ว ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จึงพอใจที่จะเลือกการฉีดไขมันใต้ตามากกว่า ที่สำคัญผลข้างเขียงหลังการฉีดไขมัน คุณอาจพบอาการบวมเล็กน้อยบริเวณใต้ตาหรือบริเวณที่ฉีดไขมัน โดยอาการบวมจะค่อยๆ ลดลงจนเป็นปกติ

ฉีดไขมันใต้ตาอันตรายหรือไม่?

การฉีดไขมันเพื่อเติมเต็มบริเวณใต้ตาจะไม่เป็นอันตรายหากได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่หากไม่ใช่แล้วก็มีความเสี่ยงสูงที่ผู้ใช้บริการจะได้รับอันตรายจากการฉีดไขมัน เนื่องจากไขมันเป็นสารประกอบขนาดใหญ่ ไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ย่อยสลายได้ในทันทีหากเกิดความผิดพลาดโดยเฉพาะถ้าฉีดเข้าที่หลอดเลือด ดังนั้นผู้ใช้บริการต้องพิจารณาโปรแกรมในการรักษาอย่างถ้วนถี่

ฉีดไขมันใต้ตาหรือเติมฟิลเลอร์ใต้ตาดี ?

ถือเป็นคำถามยอดฮิตที่มักพบเห็นกันบ่อยๆ ตามกระทู้บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งการฉีดไขมันใต้ตาและการเติมฟิลเลอร์ใต้ตานั้นสามารถลดปัญหาต่างๆ ที่พบเจอบริเวณใต้ตาได้ เช่น ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ความหย่อนคล้อย ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ที่นำไปสู่ปัญหาหน้าแก่ก่อนวัย ดูไม่มีออร่า เป็นต้น แต่การรักษาทั้งสองแบบจะมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป ซึ่งจะเปรียบเทียบตามประเด็นที่ควรทราบดังนี้

ฉีดไขมันใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เน้นแก้ไขปัญหาริ้วรอยและร่องลึก
เน้นแก้ไขปัญหางปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก
ใช้ไขมันจากร่างกายของตัวคนไข้เอง
ใช้สารเติมเต็มที่มีประสิทธิภาพ
มีกระบวนการหลายขั้นตอน
สามารถเห็นผลได้ในทันทีหลังการรักษา
พักฟื้นประมาณ 1-2 อาทิตย์ (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
ไม่ต้องพักฟื้น
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 2-5 ปี
(ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล รวมทั้งน้ำหนักตัวของแต่ละบุคคลเช่นกัน)
ผลลัพธ์อยู่ได้เพียง 6 -18 เดือน ตามแต่ละเคส
ประสิทธิภาพในการเติมเต็มเท่ากันฟิลเลอร์
ประสิทธิภาพในการเติมเต็มเท่ากับฉีดไขมัน แต่ฟิลเลอร์จะควบคุมปริมาณการเติมได้ชัดเจนกว่า
ปรับรูปหน้าได้ในปริมาณที่เยอะและราคาถูกกว่า
ราคาสูงกว่าเมือใช้ในปริมาณเยอะ

ฉีดไขมันใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?

สำหรับผลลัพธ์จากการรักษาผิวหนังบริเวณใต้ตาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของแต่ละผู้เข้ารับการรักษา รวมไปถึงการปฏิบัติตนหลังรับการรักษาแล้วอีกด้วย  โดยปกติแล้วการฉีดไขมันใต้ตาจะอยู่ได้ประมาณ 2-5 ปี หรืออาจมากกว่านั้น เพราะเป็นการฉีดไขมันที่สกัดจากร่างกายของผู้ใช้บริการเอง แม้ในช่วงแรกไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจสลายไปบางส่วน แต่เมื่อร่างกายปรับสมดุลและมีการฉีดครั้งต่อไปผลลัพธ์ก็จะคงที่เห็นผลได้ชัดเจน

ทำไมถึงควรฉีดไขมันใต้ตาที่ You Desire Clinic

เติมไขมันหน้าที่ You Desire Clinic เป็นการใช้เทคนิคแบบ Nano fat graft transfer ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ ที่จะทำให้การเติมไขมันที่หน้ามีอัตราการติดเพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และด้วยเทคนิคการเติมไขมันของ You Desire Clinic ไม่เพียงแต่เรื่องเติมเต็ม ยังช่วยเรื่องการ Lifting ของใบหน้าและปรับรูปหน้าอีกด้วย

วิธีปฏิบัติตนก่อนการฉีดไขมันใต้ตา

  1. ผู้ใช้บริการเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ ทำความเข้าใจวิธการรักษา ข้อจำกัดและการปฏิบัติโดยละเอียด
  2. ผู้รักษาเข้ารับการตรวจประเมินผิวหนังบริเวณใต้ตา และบริเวณอื่นๆ ร่วมด้วย
  3. ควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  4. พักผ่อนและดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
  5. ควรงดการใช้เครื่องสำอาง โดยเฉพาะการแต่งหน้าที่บริเวณใต้ตา
  6. หากเกิดข้อสงสัยหรือปัญหาใดๆ ให้แจ้งแพทย์ทันที

วิธีดูแลตนเองหลังการฉีดไขมันใต้ตา

  1. ไม่ควรสัมผัส เกา หรือไปกดทับบริเวณที่ฉีดไขมัน
  2. งดการใช้เครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงผิวบริเวณใต้ตา
  3. งดการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา
  4. หากมีอาการผิดปกติให้รีบเข้ามาพบแพทย์ทันที

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดไขมันใต้ตา สามารถติดต่อสอบถามกับคุณหมออ้อยได้ที่คลินิกทั้งสองสาขา  YDC You Desire Clinic เบอร์ 061-1962-391 (สาขาเซ็นทรัล EastVille) หรือที่เบอร์ 088-1991-626 (สาขาแยกเกษตร) และทาง Line ID: @youdesireclinic (มี@) ปรึกษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 แชร์บทความให้เพื่อนคุณอ่าน

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

RF Radio Frequency หนึ่งวิธีในการยกกระชับใบหน้า ดูอ่อนเยาว์

อย่างที่ทราบกันดีว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ทุกคนต้องใช้ชีวิตด้วยความรีบเร่ง แข่งขันกับเวลา ซึ่งปัจจัยนี้ทำให้ร่างกายสะสมความเครียดแบบไม่รู้ตัว ประกอบกับสภาพอากาศของประเทศไทยและสภาวะมลพิษในอากาศที่ทำร้ายผิว ส่งผลให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกันยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ทำให้เกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการดูแล ปรนนิบัติในด้านของความสวยงามต่างๆ เพื่อให้การดูแลตัวเองของผู้หญิงในยุคสมัยใหม่นั้นเป็นไปอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในวิธีการยกกระชับใบหน้าที่นิยมกันอย่างแพร่หลายก็คือ “Radio Frequency” หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “RF” กันอย่างกว้างขวาง เพราะวิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อยมากและประหยัดค่าใช้จ่ายโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม เพื่อความสวยงามด้านการยกกระชับใบหน้าและชะลอวัยได้อย่างมีประสิทธิผล แต่หากใครยังไม่รู้จัก RF เราจะมาทำความรู้จักไปพร้อมๆกันเลย

Radio Frequency หรือ RF คืออะไร

Radio Frequency หรือ RF คือ เทคโนโลยีการปล่อยคลื่นไฟฟ้าอ่อนๆในรูปแบบของคลื่นวิทยุที่มีความถี่ในช่วง 0.3-0.5 MHz (เมกะเฮริตซ์) ที่ได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง องค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและผู้เชี่ยวชาญทั่วทุกมุมโลกว่ามีความปลอดภัยและช่วยในการยกกระชับผิวให้ดูอ่อนวัยโดยที่ไม่ต้องศัลยกรรมได้จริง

ถึงแม้ว่าจะเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เพื่อความงาม แต่เครื่อง RF ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาให้มีประสิทธิภาพและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแวดวงการดูแลผิวพรรณและความงาม

คำถามที่พบบ่อย

1. Radio Frequency หรือ RF มีหลักการทํางานอย่างไร

Radio Frequency หรือ RF ใช้กระบวนการในการนวดพร้อมปล่อยพลังงานในช่วงคลื่นความถี่วิทยุอ่อนๆโดยจะมีประจุเคลื่อนที่จากด้านประจุบวกวิ่งไปที่ด้านประจุลบ ซึ่งปฎิกิริยานี้ทำให้เกิดความร้อนที่ปลอดภัยต่อร่างกาย ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดูแลผิวพรรณและความงามได้ เมื่อคลื่นความถี่นี้สามารถผ่านทะลุผิวชั้นบนได้ก็จะสามารถเข้าไปกระตุ้นการเพิ่มอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นที่ลึกลงไปได้อีก ประมาณ 3-5 °C และเพื่อความปลอดภัยต้องไม่เกิน 42 °C ส่งผลโดยตรงต่อระบบการไหลเวียนของเลือด และของเหลวในร่างกายและกระตุ้นการเปลี่ยนรูปของพลังงานจากภายใน ทำให้ระบบโลหิตที่ได้รับการรักษามีอาการดีขึ้น หลอดเลือดขยายตัว ระบบเลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีโดยการขับของเสียออกมาในรูปแบบของเหงื่อและน้ำเหลืองนั่นเอง

กลไกของกระบวนการ RF คือ การส่งคลื่นวิทยุอ่อนๆลงไปใต้ผิวหนังทุกชั้น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

  • Epidermis ผิวชั้นหนังกำพร้า โดยการกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวของหนังกำพร้าชั้นล่างๆ ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง รอยหลุมสิวดูตื้นขึ้นและลดเลือนริ้วรอยต่างๆ นอกจากนี้ยังทำให้เซลล์หนังกำพร้าที่หมดอายุแล้วหลุดลอกออกไป ไม่ว่าจะเป็นสิวเสี้ยน ฝ้า กระ จุดด่างดำหลุดลอกออกไปแล้ว ยังช่วยปรับเซลล์ผิวให้เรียบเนียนและขาวใสขึ้น
  • Dermis ผิวชั้นหนังแท้ หลังจากได้รับคลื่นพลังงานจะถูกกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในปริมาณที่มากขึ้น บริเวณผิวที่ได้รับพลังงานจะเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์และยกกระชับได้อย่างชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์
  • Subcutaneous fat ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จะเป็นชั้นสุดท้ายที่ลึกที่สุดที่คลื่นวิทยุเข้าไปถึง หลังจากได้รับพลังงานแล้ว ไขมันจะถูกทำลายสู่ระบบน้ำเหลือง ส่งผลให้ไขมันในบริเวณต่างๆลดลงได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดศัลยกรรม

2. Radio Frequency หรือ RF ช่วยในเรื่องความงามได้อย่างไร

  1. ช่วยในการกระชับสัดส่วนตามบริเวณที่ได้ทำการนวดยกกระชับ กระตุ้นผิวหนังในด้านการหดตัว รัดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อชั้นบางๆที่อยู่ในผิวหนัง
  2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ร่างกายสามารถผลิตได้ในชั้นผิวระดับลึก ที่มีผลต่อความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ
  3. เร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย กำจัดไขมันส่วนเกิน สลายไขมัน ไขมันสะสมและเซลลูไลท์ที่สะสมอยู่ตามต้นแขน ต้นขา สะโพก เอวและหน้าท้องให้ลดลง
  4. กระตุ้นให้ร่างกายขับของเสียออกมาในรูปของเหงื่อและน้ำเหลือง
  5. ช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย สบายตัวเมื่อทำการนวด ปรับปรุงระบบการไหลเวียนของโลหิต น้ำเหลืองและของเหลวต่างๆให้ทำงานได้ดีขึ้น
  6. ช่วยให้บริเวณใบหน้า ถุงใต้ตาและลำคอที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้นได้ ใบหน้าเล็กลงได้รูป คางเรียวขึ้นโดยที่ไม่ต้องศัลยกรรม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นและไม่ต้องเจ็บตัว
  7. ใช้ในการกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน หูด ติ่งเนื้อ กระเนื้อ เนื้องอก หลอดเลือด เป็นต้น

ข้อควรปฏิบัติหลังทำ Radio Frequency หรือ RF

  1. การดื่มน้ำจะช่วยในการขับของเสียและไขมันออกจากร่างกาย หลังทำการรักษาภายใน 24 ชั่วโมง แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเฉลี่ย 3-4 ลิตร เพื่อทำการกำจัดของเสียที่คั่งค้างสะสมอยู่ในร่างกายและทำให้ผลการรักษาชัดเจนมากยิ่งขึ้น วันถัดไปสามารถดื่มน้ำเปล่าวันละ 2 ลิตรได้
  2. ควบคุมอาหาร ลด ละ เลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาลและไขมัน
  3. ออกกำลังกายควบคู่ เพื่อกระตุ้นให้มีการขับของเสียออกจากร่างกาย
  4. ทำการรักษาควบคู่กับการทำทรีทเม้นอื่นๆตามที่แพทย์แนะนำ

Radio Frequency หรือ RF นั้นมีความปลอดภัยในการรักษา ไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด ผิวไหม้ สามารถติดตามอุณหภูมิ ตรวจเช็คการรักษาได้ตลอดเวลาจากหน้าจอและที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นและไม่เจ็บตัว ทั้งนี้ทั้งนั้นควรทำการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินสภาพผิว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาวิธีการในการยกกระชับใบหน้าและเพื่อผิวดูอ่อนเยาว์ของคุณ RF อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดตัวเลือกหนึ่งเลยทีเดียว

ที่ YDC You Desire Clinic เรามีบริการ Radio Frequency เช่นกัน สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาและคำแนะนำก่อนเข้ารับบริการจริงได้ที่ ได้ที่เบอร์ 061-1962-391 (สาขาเซ็นทรัล EastVille) หรือที่เบอร์ 088-1991-626 (สาขาแยกเกษตร) และทาง Line ID: @youdesireclinic (มี@)

 แชร์บทความให้เพื่อนคุณอ่าน

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

เติมไขมัน หน้าเด็ก อีกหนึ่งทางเลือกของความอ่อนเยาว์

Facial Fat Transfer เติมไขมัน หน้าเด็ก คืออะไร?

 เติมไขมัน หน้าเด็ก (Facial Fat Transfer) หรือ การปลูกถ่ายไขมัน หรือที่เรารู้จักกันดีว่าการเติมไขมันใบหน้า คือ การย้ายเซลล์ไขมันจากส่วนที่เราไม่ต้องการ ด้วยเทคโนโลยีการดูดไขมันแบบบอดี้เจ็ทหรือการดูดไขมันพลังน้ำ (ดูเพิ่มเติมเรื่องดูดไขมัน Body Jet) ที่ไม่ทำให้ไขมันเกิดความเสียหาย มีคุณภาพและสามารถใช้งานต่อได้ไปเติมเต็มในส่วนที่เราต้องการบริเวณใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ร่องแก้ม ริมฝีปาก ถุงใต้ตา เป็นต้น

ซึ่งจริงๆแล้วก็คือการฉีดฟีลเลอร์ที่มาจากไขมันของตัวเอง แต่ว่ามีข้อดีกว่าในส่วนของประสิทธิภาพที่ติดทนนาน ดูเป็นธรรมชาติกว่านั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยรักษาแผลเป็น ลดเลือนริ้วรอยให้ตื้นขึ้น และสเตมเซลล์ที่อยู่ในไขมันจะช่วยให้ผิวดูเต่งตึง อ่อนกว่าวัย หน้าใส อ่อนเยาว์เหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย

1. ข้อดีของการเติมไขมันหน้าเด็กมีอะไรบ้าง

  • สามารถเติมไขมันในส่วนที่เราต้องการได้ทุกส่วนทั่วใบหน้า รวมทั้งหน้าอก หรือสะโพกและบั้นท้ายตามปริมาณที่ต้องการ โดยไม่เกิดอันตรายใดๆ
  • เป็นเซลล์ไขมันของตัวเราเอง จึงไม่ทำให้เกิดอาการต่อต้าน นอกจากนี้ประสิทธิภาพและการคงอยู่นั้นติดทนนาน ไม่เป็นคลื่น ดูเป็นธรรมชาติ
  • หลังจากฉีดแล้วเมื่อไขมันเข้าที่จะทำให้ผิวสวย โกลว์ เนียน ฉ่ำวาว มีวอลลุ่ม ดูเป็นธรรมชาติ
  • มีความคุ้มค่าเนื่องจากไขมันที่ได้สามารถฉีดเพื่อช่วยในเรื่องของทั้งรูปร่างและการฉีดไขมันหน้าเด็กไปพร้อมๆกัน
  • ราคาประหยัดกว่า เมื่อเทียบกับการเติมเต็มด้วย Hyaluronic acid เมื่อเปรียบเทียบในปริมาณที่เท่ากัน
  • ไขมันเป็น stem cell อย่างหนึ่งซึ่งเมื่อเติมไปแล้วจะทำให้ผิวบริเวณที่มีปัญหา เช่น ผิวแห้ง ผิวหยาบกร้าน เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ฟื้นฟูกลับมาได้อีกด้วย

2. เติมไขมันหน้าเด็ก ใช้เวลานานหรือไม่?

หากเทียบกับการฉีดฟีลเลอร์แล้ว การฉีดไขมันนั้นจะต้องใช้เวลาค่อนข้างมากกว่ามากเพราะกระบวนการก่อนที่จะฉีดเติมไขมันเข้าไปนั้นก็คือ การดูดไขมันออกมาจากบริเวณที่ไม่ต้องการก่อน หลังจากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงจะนำไขมันที่ได้ไปทำการคัดแยกออกจากของเหลวอื่นๆ เพื่อเอาแต่ไขมันที่มีคุณภาพสูงไว้ใช้ในการทำ Fat Transfer ต่อไป

3. เติมไขมัน หน้าเด็ก มีอันตรายหรือไม่?

การฉีดเติมไขมันหน้าเด็กนั้นไม่มีอันตรายใดๆต่อร่างกายทั้งสิ้น เนื่องจากเซลล์ไขมันที่นำมาใช้ในการฉีดเติมบริเวณใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดๆก็ตาม บริเวณขมับ หน้าผาก ร่องแก้ม หางตา ถุงใต้ตา ริมฝีปาก หน้าอก หรือบั้นท้ายก็ตามก็จะเป็นไขมันของตัวเองทั้งสิ้น ดังนั้นร่างกายจะไม่มีอาการต่อต้าน หรือไม่เกิดปฏิกิริยาอาการแพ้ใดๆทั้งสิ้น

4. เติมไขมันหน้าเด็กจะอยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยปกติแล้วการเติมไขมันจะอยู่ได้นานหลายปี สลายไปตามธรรมชาติ ตามไขมันปกติในร่างกาย

โดยการเติมไขมัน หรือ ทำ fat graft transfer คือ การย้าย เซลล์ไขมัน จากตำแหน่งหนึ่ง ไปยังอีกตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งเมื่อไขมันติดแล้วหมายถึงมีเส้นเลือดมาเลี้ยงแล้ว ก็จะติดไปยาวๆ เหี่ยว หรือ หายไปตามอายุ
ซึ่งโอกาสที่เซลล์ไขมันจะอยู่รอดจะอยู่ที่ 30-80% และหลายๆปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ทั้งนั้นทางคลินิกและแพทย์มีเทคนิคพิเศษ ที่จะสามารถรักษาคุณภาพของเซลล์ไขมันได้ตั้งแต่กระบวนการดูดไขมันยาวไปจนถึงการฉีดไขมัน ซึ่งจะทำให้โอกาสการปลูกถ่ายมีประสิทธิภาพสูงถึง 80% เลยทีเดียว

การปฎิบัติตัวก่อนศัลยกรรม เติมไขมัน

  1. ควรงดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยลดโอกาสที่แผลจะหายช้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  2. ควรงดการกินยากลุ่มแอสไพริน หรือไอบิวโพรเฟน เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด
  3. ควรงดทานอาหารประเภทของหมักดอง และอาหารทะเล อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  4. งดการทานอาหารเสริม สมุนไพร น้ำมันตับปลา หรือวิตามินอื่นๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพื่อป้องกันอาการเลือดหยุดไหลช้า
  5. ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่า เราเป็นโรคใด กินยาชนิดใด หรือแพ้ยาตัวไหนบ้าง เพื่อแพทย์จะได้ทราบและลดอันตรายภายหลังการเติมไขมัน
  6. งดการแต่งหน้า และควรสระผมก่อนให้เรียบร้อย

การปฎิบัติตัวหลังศัลยกรรม เติมไขมัน

  1. หลังจากการรักษาภายใน 24 ชั่วโมงแรก งดการนวดหน้า การทาครีม การแต่งหน้า หรือทาโลชั่นต่างๆอย่างเด็ดขาด
  2. หากจำเป็นต้องล้างหน้า ให้ล้างหลังจากวันที่ 2 เป็นต้นไป ล้างให้สะอาดแต่อย่าล้างหน้าแรงและหลีกเลี่ยงบริเวณรูเข็ม
  3. หลังจากการรักษาช่วงแรกๆ แนะนำให้นอนหมอนสูงและพักผ่อนให้เต็มที่ประมาณ 8 ชั่วโมง รับประทานยาให้ครบตามคำสั่งของแพทย์
  4. งดการออกกำลังกายอย่างหนัก งดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากการรักษา
  5. หลีกเลี่ยงการโดนความเย็นจัด หรือร้อนจัด เช่น ซาวน่าในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังจากการรักษา
  6. สังเกตอาการตนเองบ่อยๆ หากมีอาการผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์โดยทันที

การดูแลหลังศัลยกรรมเติมไขมันบริเวณหน้าอก

  1. เหมือนกันกับการเติมไขมันบริเวณใบหน้า
  2. ห้ามนวดคลึง บีบ บริเวณที่เติมไขมัน
  3. งดใส่เสื้อชั้นในที่มีโครง ให้ใส่เสื้อชั้นในไร้โครงที่หลวมกว่าปกติ

รีวิวก่อน - หลังการเติมไขมันที่ YDC You Desire Clinic

และนี่ก็คือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเติมไขมัน การฉีดไขมันหน้าเด็กและ Fat Transfer ที่เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของสาวๆในยุคสมัยนี้ ที่ YDC You Desire Clinic พร้อมให้บริการด้วยความปลอดภัย เรามีคุณหมออ้อยที่มีประสบการณ์สูงคอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิดด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง หากใครที่กำลังสนใจอยากจะใช้บริการอยู่ ลองปรึกษาคุณหมอดูก่อนได้เลยนะคะที่ที่เบอร์ 061-1962-391 (สาขาเซ็นทรัล EastVille) หรือที่เบอร์ 088-1991-626 (สาขาแยกเกษตร) และทาง Line ID: @youdesireclinic (มี@) เพื่อรับคำปรึกษาได้ฟรีก่อนเข้ารับบริการค่ะ

 แชร์บทความให้เพื่อนคุณอ่าน

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter